บ้านทรุดคืออะไร
บ้านทรุด คือการที่โครงสร้างของบ้าน หรือฐานของบ้านทรุดตัวต่ำลงไป ซึ่งเกิดได้จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. ปัญหาการทรุดตัวของพื้นดินบริเวณรอบๆ ตัวบ้าน เมื่อดินบริเวณบ้านเกิดการทรุดเป็นระยะเวลานานหลายปีติดต่อกัน จนเกิดเป็นโพรงใต้คานคอดิน ทำให้บ้านทรุดได้ และ2.ปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการแตกร้าวของเสาเข็ม โครงสร้างเดิมที่ทำไว้ไม่แข็งแรง การต่อเติมบ้านที่มีน้ำหนักเกินจนฐานเดิมไม่สามารถรับน้ำหนักได้ ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาบ้านทรุดได้เช่นกัน ซึ่งก่อนที่บ้านจะทรุดและพังนั้น มักจะมีสัญญาณเตือนให้ได้รู้ก่อน
บ้านทรุดเกิดจากอะไรบ้านทรุด
ปัญหาบ้านทรุดเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกับหลายบ้าน ซึ่งเกิดได้จากหลายๆ ปัจจัย มีทั้งจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งแต่ละบ้านอาจจะเกิดปัญหาการทรุดที่ต่างกันออกไป สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาบ้านทรุดที่พบได้บ่อยมี ดังนี้
1. น้ำหนักบ้าน
น้ำหนักของบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทำให้บ้านทรุดตัวได้ โดยเฉพาะบ้านที่เป็นตึกแถว ทาวน์โฮม หรือบ้านแฝดที่มีโครงสร้างของบ้านติดกับหลังอื่น เมื่อเพื่อนบ้านทำการต่อเติมบ้านจนเกินน้ำหนักที่กำหนดไว้ หรือน้ำหนักมากเกินไปจนโครงสร้างเดิมรับไม่ไหว ก็ทำให้เกิดปัญหาบ้านทรุดได้ หรือในกรณีบ้านเดี่ยวที่ทำการต่อเติมบ้าน โดยต่อเติมเพิ่มจากโครงสร้างเดิม แต่ไม่ได้คำนวณน้ำหนัก จนทำให้น้ำหนักของตัวบ้านเพิ่มมากขึ้น จนฐานบ้านเดิมรับไม่ไหวก็สามารถทำให้บ้านร้าว และทรุดได้ในที่สุด
2. สภาพพื้นดิน
สภาพพื้นดินบริเวณที่ก่อสร้างบ้านเป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านใหม่ หรือซื้อบ้านจากโครงการ ควรศึกษาให้ดีว่าก่อนหน้านี้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่ทำอะไรมาก่อน โดยการสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆ หากเคยเป็นพื้นที่ทำนา เป็นหนองน้ำ ดินบริเวณนั้นก็จะมีความอ่อนตัวมากกว่าปกติ หากสร้างบ้านก็จะมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาบ้านทรุดได้ง่าย ต้องทำการถมดินทิ้งไว้ก่อนอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้ดินมีความหนาแน่นมากพอที่จะทำการก่อสร้างได้
3. เสาเข็ม
การสร้างบ้านหรืออาคารควรใส่ใจกับการเลือกเสาเข็มเป็นอย่างมาก เพราะเสาเข็มเป็นเหมือนตัวช่วยที่ทำให้รากฐานของบ้านนั้นมีความแข็งแรง คงทน สำหรับการเลือกความยาวของเสาเข็มต้องพิจารณาจากดินบริเวณที่สร้างอาคาร รวมถึงขนาดของอาคาร โดยการเลือกเสาเข็มจะต้องเลือกที่มีความยาวพอที่สามารถตอกลงไปจนถึงชั้นดินแข็งได้โดยตรง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นดินอ่อน หากเลือกเสาเข็มที่สั้นเกินไป จะทำให้บ้านทรุดง่าย แม้บ้านอาจจะไม่ทรุดในช่วงปีแรกๆ แต่เมื่อผ่านไป 5-10 ปีบ้านก็จะทรุดตัวลงเช่นเดิม แต่อย่างไรก็ตามก่อนสร้างบ้านควรสำรวจพื้นดินให้ทั่วบริเวณที่สร้าง เนื่องจากดินในแต่ละจุดอาจมีความอ่อน แข็งที่แตกต่างกัน จะได้เลือกความยาวของเสาเข็มให้เหมาะในแต่ละพื้นที่
4. น้ำท่วมขัง
ในพื้นที่ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังบ่อยๆ หรือน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน หลังจากที่น้ำลดลงแล้วหนึ่งในปัญหาที่ตามมาคือเกิดการชะล้างหน้าดิน ทำให้ชั้นดินบริเวณนั้นๆ ต่ำลง และส่งผลทำให้เกิดหลุมโพรงใต้คานคอดิน นอกจากนี้การที่น้ำท่วมบ่อยๆ ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแรงดันน้ำใต้ดิน จนเกิดการเคลื่อนตัวของชั้นดินได้ ปัญหานี้สามารถทำให้บ้านทรุดได้เช่นกัน นอกจากนี้ในกรณีที่บริเวณรอบๆบ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ เช่น มีการขุดดินบริเวณบ้านออกเป็นจำนวนมาก ขุดบ่อ ขุดคลอง หรือมีการสูบน้ำออกจากบ่อขนาดใหญ่ จะทำให้พื้นดินเกิดการทรุดตัว และส่งผลต่อโครงสร้างของบ้านได้เช่นกัน